ผลไม้ลอยแก้วพร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศไทย

ผลไม้ลอยแก้วพร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศไทย

วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สูตรทำกระท้อนทรงเครื่อง

สูตรทำกระท้อนทรงเครื่อง
ส่วนผสม
1.  มะพร้าวคั่ว 1-1/2  ชต
 2.  กระท้อน 1 ผลใหญ่ ( ใช้กระท้อนปุยฝ้าย)
   3. กุ้งแห้ง   1   ชต
   4. พริกป่น   1   ชช
   5. พริกขี้หนูสดซอย ( ไม่ใส่ก็ได้ )
   6. ถั่วลิสงคั่ว 1- 1/2  ชต
    7.กะปิ 1/2 ชช (ไม่ชอบไม่ต้องใส่ แต่ให้เพิ่มน้ำปลาแทน ตามความชอบ)
    8. น้ำตาลทราย 6  ชต (เพิ่มหรือลดได้)
   9. น้ำปลา        1   ชต
  10. น้ำสะอาด  3   ชต
  11. เกลือป่น    1    ชช

ขั้นตอนวิธีทำ
1. ล้างกระท้อนให้สะอาด แล้วฝานเปลือกออกฝานให้ผิวเรียบจะได้ความสวยงามเวลาริ้วผลกระท้อน หลังจากนั้นนำไปแช่ในน้ำที่ผสมเกลือไว้เพื่อไม้ให้กระท้อนที่เราปลอกเปลือกแล้วดำ
2. จากนั้นบั้งหรื้อริ้วกระท้อนตามความยาวผลกระท้อน บั้งริ้วเล็กๆให้รอบผล แล้วแช่น้ำในน้ำเกลือไว้
3.บุบถั่วลิสงคั่วให้พอแตก (ชอบหยาบหรือละเอียดตามความใจชอบ) ป่นกุ้งแห้งแล้วพักไว้
4. ตวงน้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำตาล น้ำสะอาด กะปิ  ใส่ภาชนะหม้อ  ยกตั้งไฟความร้อนปานกลาง เคี่ยวจน    น้ำตาลละลายดี และให้เหนียวพอควร ระวังอย่าให้เหนียวมากเพราะเมื่อเย็นแล้วน้ำตาลจะเหนียวข้นขึ้นอีก ปิดไฟยกลง เติมผสม พริกป่น (ใช้พริกขี้หนู) คนผสมให้เข้ากัน
5. เวลาจะทาน ให้นำกระท้อนออกจากน้ำเกลือ บีบกดหัวท้ายเบาๆ แล้วบิดนิดหน่อยเพื่อให้น้ำเกลือออกจากเนื้อกระท้อน แผ่เนื้อกระท้อนออก พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วจัดใส่จาน
6. ตัก ราดน้ำจิ้มลงบนกระท้อน โรยหน้าด้วยมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่วป่นและกุ้งแห้งป่น พร้อมเสิรฟ


หมายเหตุ
ปริมาณเครื่องปรุงทุกอย่างเพิ่มลดได้ตามชอบ
กุ้งแห้ง มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว ถ้าหาอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ก็ไม่ต้องใส่ค่ะ 
จะใช้น้ำตาลปี๊บผสมก็ได้นะคะ


<<รวบรวมภาพกระท้อนทรงเครื่อง หน้าตาน่ารับประทานมาฝากคะ >><แต่งจานสวยๆเครื่องตูมๆ   เผื่อเป็นไอเดียเจ๋ง !! ในการจัดแต่งจานอาหาร





วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2559

สละลอยแก้ว เคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย

สละลอยแก้ว เคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย
เลือก สละ สดๆที่ไม่หวานจนเกินไป ซึ่งต้องใช้ความชำนาญในการเลือกเกษตรกรผู้ปลูกจะรู้และชำนาญเป็นอย่างดี หรือใช้วิธีการชิม ก่อนเลือกซื้อมาแปรรูป 
ในปัจจุบันนิยมใช้ สละพันธุ์สุมาลี เพราะเนื้อแน่นรสชาติดีหวานเข้มข้นกว่าสายพันธุ์อื่น สีสวยเนื้อไม่ดำ แต่ราคาจะค่อนข้างแพงกว่าสายพันธุ์อื่น
การคว้านเมล็ด ต้องใช้มีดปลายแหลมสำหรับคว้าน หรือมีดแกะสลัก อย่างเบามือเพื่อไม่ให้เนื้อสละช้ำปรุงน้ำเชื่อมรสหวานตัดเค็มเจือเกลือเพียงเล็กน้อย รสชาติของสละลอยแก้วเมื่อทานจะได้ความหวานอมเปรี้ยวจากเนื้อสละ ได้กลิ่นหอมของความสดของวัตถุดิบ เมื่อเคี้ยวเนื้อสละจะรับรู้ได้ถึงเนื้อที่นุ่มแน่นหวานอมเปรี้ยวนิดๆตัดกับความหวานของน้ำเชื่อมรับประทานเย็นๆแบบแช่เย็นน้ำแข็งเกล็ดหิมะหรือเติมน้ำแข็งบด
สละลอยแก้วที่ดีเนื้อสละจะต้องไม่ยุ่ย ไม่ช้ำดำ ลูกสละที่คว้านเมล็ดจะต้องเต็มลูกไม่มีเฉือนหรือแยกเป็นชิ้นน้ำเชื่อมใส มีกลิ่นหอมของสละ 
สูตรและเคล็ดลับการทำสละลอยแก่วไม่มีสูตรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ คือ สละที่ต้องใช้ความสดของวัตถุดิบสำคัญ นั้นเองเพราะแต่ละลูกจะมี ความเปรี้ยว ความหวานแตกต่างกันออกไป ถ้าเราปฏิบัติทำบ่อยครั้งจะเกิดความชำนาญ ในการเตรียมวัตถุดิบ ให้ได้รสชาติที่ดี ก่อนการนำมาแช่และปรุงรสในน้ำเชื่อม
เมื่อทำ สละลอยแก้ว ได้ ผลไม้ตามฤดูกาลที่มีรสอมเปรี้ยวหลากหลายอย่าง ที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องตามฤดูกาลก็ไม่ใช่เรื่องที่ยาก อาทิเช่น กระท้อนลอยแก้ว ลูกตาลลอยแก้ว สเตอรเบอรรี่ลอยแก้ว ลิ้นจี่ลอยแก้ว  ตะลิงปิงลอยแก้ว เป็นต้น

ผลไม้ลอยแก้ว กับเคล็ดลับการทำให้อร่อยง่ายๆ








ลูกตาลลอยแก้วเคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย

ลูกตาลลอยแก้วเคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย
การเลือกลอนตาลสดมา ทำ ผลไม้ลอยแก้ว จะต้องไม่เลือกที่ไม่แก่และอ่อนจนเกินไป เบื้องต้นสังเกตจากสีของเปลือกลอนตาลจะต้องไม่เป็นสีเข้ม กรณีได้ลูกตาลที่ได้เนื้อลูกตาลที่อ่อนมาทำลูกตาลลอยแก้ว จะต้องทำชิ้นใหญ่พอสมควร เพราะไม่งั้นเนื้อตาลจะเละปนไปกับน้ำเชื่อม 
เทคนิคการทำ ลูกตาลลอยแก้ว คือน้ำเชื่อมจะต้องไม่ใส่น้ำเยอะจนเกินไป เพราะจะทำให้น้ำเชื่อมไม่สัมพันธ์กับเนื้อลูกตาล
ใส่น้ำลูกตาลที่มีอยู่ในลอนตาลลงไปด้วยจะทำให้ได้ความหอมและรสชาติความสดอร่อยเพิ่มมากขึ้น
น้ำลูกตาลจะมีอยู่ในลอนตาลอ่อนที่สดๆเท่านั้น






กระท้อนลอยแก้ว เคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย

กระท้อนลอยแก้ว เคล็ดลับง่ายๆในการทำให้อร่อย
ใช้กระท้อนสดๆกระท้อนสุกเปลือกสีเหลือง กระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย ลูกใหญ่เนื้อปุยเยอะไม่ฝาด ตอนปอกเปลือกออกอย่าเสียดายเนื้อให้ปอกออกค่อนข้างหนาเพราะไม่งั้นจะได้รสฝาดติดมาด้วย ทำให้เสียรสชาติ ใช้น้ำมะนาวแช่หลังจากปลอกเปลือกเพื่อไม่ให้เนื้อของกระท้อนดำ ใช้น้ำเกลือแช่ชิ้นเนื้อเพื่อลดความฝาดของกระท้อนหลังจากหั่นเป็นชิ้นหรือแกะสลักดอกกระท้อน เพื่อลดความฝาด บีบน้ำฝาดออกให้หมดโดยใช้วิธีชิมเนื้อ ทำจนกว่าเนื้อกระท้อนไม่ฝาดจึงจะเอามาแช่ในน้ำเชื่อมที่ปรุงรสหวานเจือเกลือตัดเค็มเพียงเล็กน้อยแช่ไนน้ำเชื่อมอย่างน้อย คืนขึ้นไปจึงจะเอามาทานกับน้ำแข็งใสหรือน้ำแข็งบด
รสชาติของ กระท้อนลอยแก้ว คือเมื่อตักเข้าปาก จะได้ความหวานอมเปรี้ยวน้ำเชื่อมอมเปรี้ยวจากเนื้อกระท้อน กินแล้วชื่นใจพอเคี้ยวเนื้อ จะได้เปรี้ยวออกมาปนกันกับหวาน ได้ความเย็นจากน้ำแข็งดับร้อน ชื่นใจได้อย่างดีในหน้าร้อนเมืองไทยเรา
สูตรและเคล็ดลับการทำกระท้อนลอยแก้วไม่มีสูตรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ใช้ คือ กระท้อน นั้นเองเพราะแต่ละลูกจะมีความฝาด ความเปรี้ยว ความหวานแตกต่างกันออกไป ถ้าเราปฏิบัติทำบ่อยครั้งจะเกิดความชำนาญ ในการเตรียมวัตถุดิบ ให้ได้รสชาติที่ดี ก่อนการนำมาแช่และปรุงรสในน้ำเชื่อม

เมื่อทำ " กระท้อนลอยแก้ว" ได้ ผลไม้ตามฤดูกาลหลากหลายที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องตามฤดูกาลก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากที่จะแปรรูปการทำผลไม้ลอยแก้วชนิดอื่น อาทิเช่น สละลอยแก้ว เงาะลอยแก้ว ลูกตาลลอยแก้ว สเตอเบอรรี่ลอยแก้ว ลิ้นจี่ลอยแก้ว เป็นต้น

กระท้อนปุยฝ้ายผลไม้เมืองมรดกธรรมชาตินครนายก

กระท้อนปุยฝ้ายผลไม้เมืองมรดกธรรมชาตินครนายก

เมืองนครนายกขึ้นชื่อว่ามีผลไม้ขึ้นชื่อมากมาย หนุนเวียนออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ มะยงชิด มะปรางหวาน และกระท้อนปุยฝ้าย ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นอย่างมากในแต่ละปี ทุกๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลผลไม้ มะปรางหวาน มะยงชิด จ.นครนายก ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งผู้มาเยือนจังหวัดนครนายกในช่วงเดือนมกราคม - มีนาคม ไม่ควรจะพลาดเลือกซื้อเป็นของฝากก่อนเดินทางกลับบ้านทุกครั้ง สำหรับในช่วงเดือนมิถุนายน ก็จะเป็นเทศกาลของ "กระท้อนยักษ์" ก็เป็นอีกผลิตผลเด่นของจังหวัดนี้ ถัดมาอีกเพียง 2  เดือน คือช่วงเดือนสิงหาคม ก็จะเป็นช่วงฤดูกาลของ "ส้มโอหวาน" ซึ่งนครนายกเป็นจังหวัดที่ปลูกส้มโอเป็นไม้ผลเศรษฐกิจหลัก มีหลายหลากสายพันธุ์ด้วยกัน เช่น พันธุ์ขาวน้ำผึ้ง พันธุ์ขาวทองดี และพันธุ์ขาวใหญ่ โดยเฉพาะพันธุ์ขาวน้ำผึ้งจะมีรสชาติหวานกลมกล่อม และมีเนื้อกุ้งสีน้ำผึ้งน่ารับประทาน โดยทางจังหวัดจะจัดงานหน้าศาลากลางจังหวัด ในทุกฤดูกาลของผลไม้นั้นๆ เป็นประจำในทุกปี




กระท้อนปุยฝ้ายกระท้อนห่อ

กระท้อนพันธุ์ "ปุยฝ้าย" เป็นสายพันธุ์เบา เป็นกระท้อนผลใหญ่ ทรงกลมแป้น ผิวผลเนียนละเอียด จับดูนิ่มเหมือนกำมะหยี่ เนื้อในเป็นปุยสีขาว รสหวานสนิท เก็บผลผลิตขายผลสดได้มากในช่วงเดือนมิถุนายน
 กระท้อนปุยฝ้ายกระท้อนห่อ
กระท้อนปุยฝ้าย เป็นกระท้อนสายพันธุ์เบา เป็นกระท้อนที่มีผลใหญ่ ทรงกลมผลแป้น ผิวของผลเนียนละเอียด จับดูนิ่มเหมือนกำมะหยี่ เนื้อในเป็นปุยสีขาว รสหวานสนิท เก็บผลผลิตขายในช่วงเดือนมิถุนายน นิยม นำไปแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าหลายอย่าง เช่น กระท้อนลอยแก้ว  กระท้อนดอง  กระท้อนแช่อิ่ม  กระท้อนทรงเครื่อง เป็นต้น

กระท้อนปุยฝ้าย หรือ กระท้อนห่อฤดูกาล (ลานผลไม้ฤดูกาล)  กระท้อนเป็นไม้ยืนต้น สูงประมาณ 15 - 30 เมตร อายุขัยเฉลี่ยประมาณ 40 - 50 ปี เปลือกต้นสีเทา ใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ การเกาะติดของใบบนกิ่งแบบเรียงสลับ ใบย่อยรูปรีแกมไข่จนถึงขอบขนาน ขนาดประมาณ กว้าง 6 - 15 ซม. ยาว 8 - 20 ซม. เมื่อใบแก่จัดจะเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงดอกออกเป็นช่อ ที่ซอกใบบริเวณปลายกิ่ง ดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกสีเหลืองนวลผล ผลอ่อนสีเขียวมีน้ำยางสีขาว เมื่อผลแก่เปลือกผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและมีน้ำยางน้อยลง รูปกลมแป้น ผิวมีขนแบบกำมะหยี่อ่อนนุ่ม ขนาดประมาณ 5 - 15 เซนติเมตร ภายในผลจะมีเมล็ด 3-5 เมล็ด และมีปุยสีขาวหุ้มอยู่ ปุยที่รับประทานได้นี้พัฒนามาจากเปลือกหุ้มเมล็ด ซึ่งลักษณะ ของปุยและรสชาติจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละพันธุ์ เมล็ดรูปรี มีเนื้อปลอกเหนียวห่อหุ้ม

ผลไม้ลอยแก้ว ( Thai Fruit )


ผลไม้ลอยแก้ว  ถือเป็นอาหารตำหรับหวานของคนไทยชนิดหนึ่งที่ถูกใจใครต่อหลายคน 
ผลไม้ลอยแก้ว นิยมทานกับน้ำแข็ง หรือทานแบบแช่เย็น ซึ่งทำให้ได้รสชาติ ความหวานเย็น ชื่นใจ จากน้ำเชื่อมที่ปรุงรสหวานเจือเกลือเล็กน้อยได้ความเปรี้ยวจากเนื้อผลไม้ตัดกับความหวานจากน้ำเชื่อม รับประทาน  คลายร้อนดับร้อนกับน้ำแข็งได้อย่างดี เหมาะเป็นอย่างยิ่งในเมืองที่มีอากาศร้อนอย่างเมืองไทย
ผลไม้ลอยแก้ว ถือเป็นการถนอมอาหารชนิดหนึ่ง เป็น การแปรรูปอาหาร (  food processing)  
การแปรรูปอาหาร คือ กระบวนการเปลี่ยนแปลงสภาพของวัตถุดิบให้อาหารอยู่ในสภาพที่ที่เหมาะสม สะดวด และปลอดภัยต่อการบริโภค ยืดอายุการเก็บรักษา เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่มีความหลากหลาย เพิ่มทางเลือกและเป็นการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบ คือผลไม้ต่างๆนั้นเอง 

ผลไม้ที่นิยมนำมาทำเป็น ผลไม้ลอยแก้ว แยกจำแนกออกเป็นสองประเภทได้แก่ 
ผลไม้รสหวานอมเปรี้ยว
สละลอยแก้ว กระท้อนลอยแก้ว ตะลิงปลิงลอยแก้ว สเตอเบอรรี่ลอยแก้ว เสาวรสลอยแก้ว องุ่นลอยแก้ว ลิ้นจี่ลอยแก้ว มะยงชิดลอยแก้ว มะปรางหวานลอยแก้ว ลูกพีช  มะม่วงดิบลอยแก้ว สับปรดลอยแก้ว แก้วมังกรลอยแก้ว ลองกองลอยแก้ว  มังคุดลอยแก้ว ลองกองลอยแก้ว  เป็นต้น
ผลไม้รสหวาน
ลูกตาลลอยแก้ว เงาะลอยแก้ว  เมลอนลอยแก้ว แคนตาลูปลอยแก้ว  มะม่วงสุกลอยแก้ว  เป็นต้น